เจ้าหญิงตัวน้อยกับเจ้าชายไร้เส้นผม

ในเกมฟุตบอลเรามักจะได้ยินเรื่องราวเช่นนี้เสมอ
เรื่องของหนึ่งชีวิตที่โชคร้าย กับสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่แรกมีลมหายใจโดยไม่ได้มีสิทธิ์เลือกอะไร
กับแรงบันดาลใจในชีวิต – กำลังใจสำคัญที่ทำให้คิดอยากจะให้จังหวะหัวใจได้เต้นต่อไป
เบลลา สาวน้อยวัย 7 ขวบ เกิดและเติบโตอยู่ที่ดัลลัส เท็กซัสสหรัฐอเมริกา แต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้บินข้ามฟ้าข้ามทะเลมากว่า7,5000 ไมล์ เพื่อมาดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
พูดแล้วก็น่าประหลาดใจใช่ไหมครับ เด็กสาวที่โตในประเทศที่เรียกฟุตบอลว่าซอคเกอร์ ทำไมถึงมานั่งอยู่ในเกมที่จอห์น สมิธ สเตเดียมได้?
เธอไม่ได้สนใจใคร่รู้อะไรเกี่ยวกับพรีเมียร์ลีกนัก เพียงแต่เธอแค่อยากจะมาเชียร์นักฟุตบอลในดวงใจของเธอ
อารอน มอย มิดฟิลด์เสาหลักของฮัดเดอร์สฟิลด์ ทีมที่ตกชั้นทีมแรกในฤดูกาลนี้
เรื่องราวที่น่าประทับใจในความสัมพันธ์ที่น่าเหลือเชื่อระหว่างทั้งคู่เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 9 เดือนที่แล้วครับ
หนูน้อยเบลลา โชคร้ายป่วยเป็นมะเร็งในสมองและจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาเป็นการด่วน ซึ่งความโหดร้ายของการฆ่าเนื้อร้ายที่ไม่พึงปรารถนาคือผลข้างเคียงที่ผู้หญิงทุกคนยากจะทำใจยอมรับได้
การรักษาด้วยเคมีบำบัดทำให้ผมที่เคยเป็นลอนยาวสลวยของเบลลา ต้องร่วงหล่นลงหมด แม้จะเป็นเด็กแต่ความเป็นผู้หญิงก็ทำให้เธอ“รู้สึก”
จนกระทั่งวันหนึ่งในขณะที่เธอผลอยหลับไปหลังดูหนังดิสนีย์อยู่กับพ่อบนโซฟา – สกอตต์ คุณพ่อของหนูเบลลา แอบเปลี่ยนช่องไปดูฟุตบอลโลกที่ประเทศรัสเซีย
ทีมชาติออสเตรเลีย กำลังลงสนามพอดี
แล้วเจ้าหญิงนิทราที่หลับไหลก็ตื่นขึ้นมาเพื่อพบกับรักแท้ครั้งแรกในชีวิตของเธอ
“พ่อ หนูชอบเขา เขาเหมือนหนูเลย”
เบลลา งัวเงียชี้ให้พ่อดูคนคนหนึ่งในโทรทัศน์ คนที่สวมชุดสีเหลืองคนนั้นน่ะ ที่ไม่มีเส้นผมเหมือนกับเธอ
จากจุดเริ่มต้นในวันนั้น เบลลา กับสกอตต์ ก็กลายเป็นกองเชียร์ซอคเกอรูส์ไปโดยปริยาย จากที่เฝ้าติดตามในฟุตบอลโลกก็มาค้นหาข้อมูลต่อในอินเตอร์เน็ตก่อนจะรู้ว่า นักฟุตบอลคนนั้นเล่นให้กับสโมสรฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ในอังกฤษ
น่าเสียดายที่ในดัลลัส การจะหาเสื้อ “เดอะ เทอร์เรียร์ส” นั้นแทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ตรงข้ามกับเสื้อดัลลัส คาวบอยส์ หรือดัลลัส มาเวอริคส์ ที่มีในร้านกีฬาทุกแห่ง
เมื่อพยายามแล้วแต่หาไม่ได้ เรื่องราวของสาวน้อยที่อยากได้เสื้อฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ก็ถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย
และเป็นอีกครั้งที่พลังของโซเชียลมีเดีย ได้สร้างปาฏิหารย์ให้เกิดขึ้นกับชีวิตของเด็กคนหนึ่ง
“เรื่องมันแพร่ไปทั่วโลก และทำให้เราได้หาทางส่งเรื่องราวไปถึงกล่องข้อความของคุณมอย”
“สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมาก ผมคงไม่สามารถจะหาถ้อยคำใดๆมาอธิบายในสิ่งที่อารอน ได้ช่วยเหลือเธอ”
“ในตอนนั้นเรากำลังอยู่ในร้านขายวิก และเรากำลังกังวลเกี่ยวกับสาวน้อยของเรา แต่ทั้งๆที่เราไม่เคยรู้จักกันเลย เขาได้ช่วยทำให้เธอได้ค้นพบว่าเธอไม่จำเป็นที่จะต้องใส่วิก”
“เขาและฮัดเดอร์สฟิลด์ ได้ทำให้ความฝันของสาวน้อยชาวเท็กซัสตัวเล็กๆได้กลายเป็นความจริง”
ฮัดเดอร์สฟิลด์ รีบติดต่อกับครอบครัวของเบลลาทันทีที่ทราบเรื่องและด้วยความช่วยเหลือจากบริษัทท้องถิ่นในเวสต์-ยอร์คเชียร์ – เบลลาและครอบครัวได้รับเชิญให้เดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อดูฮีโร่ของเธอลงสนามชัดๆตรงหน้า
มากกว่าแค่ได้ดูเกมบนอัฒจันทน์ เบลลา ได้พบกับมอย ในสนามซ้อมที่คานาลไซด์ ก่อนได้เป็นมัสคอตเดินจูงมือ อารอน มอย ลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่พบกับเลสเตอร์
ภาพของเธอ เจ้าหญิงน้อยผู้เลอโฉมเดินกุมมือกับเจ้าชายผู้ไร้เส้นผม ลงสู่สนามจอห์น สมิธ สเตเดียม เป็นภาพที่น่าประทับใจท่ามกลางการอารักขาของเหล่าอัศวินเดอะ เทอร์เรีย ที่พยายามดูแลว่าเจ้าหญิงของพวกเขาจะปลอดภัย
ถึงแม้ว่าเจ้าชายและเหล่าอัศวินจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในเกมนี้
แต่ดูเหมือนเจ้าหญิงเบลลาจะช่วยนำโชคดีมาให้ เมื่อฮัดเดอร์สฟิลด์ ที่ไม่ค่อยได้จุดโทษเลยมาได้ลูกจุดโทษในเกมนี้
และก็เป็นเจ้าชายของเธอ อารอน มอย ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไป
เบลลา กระโดดดีใจอยู่ในอ้อมกอดของสกอตต์
ฮัดเดอร์สฟิลด์ แพ้แต่เหมือนชนะ
เพราะพวกเขา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเขา อารอน มอย ได้มอบความสุขและความทรงจำที่พิเศษที่สุดในชีวิตให้แก่เด็กสาวคนหนึ่ง
เบลลา จะอยู่ที่ยอร์คเชียร์อีก 2-3 วัน ก่อนจะเดินทางกลับ
โดยที่เธอจะไม่มีวันลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ตลอดไป 🙂