‘Ginga’ ลูกหนังมายากับ ‘ราชาฟุตซอล’

คุณเคยเห็นเวทมนต์ไหมครับ?
ถ้าเป็นในชีวิตจริงคงแทบไม่มีหรือหากจะมีใครได้เคยเห็นเรื่องที่เหนือธรรมชาติอยู่บ้างก็คงจะน้อยเต็มที
เพียงแต่ผมอาจจะโชคดีที่เป็นหนึ่งในคนที่เคยเห็น
ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 13 ปีก่อนผมได้รับการติดต่อมาจาก “ไนกี้” ที่ยกหูเข้ามาในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์กีฬา “คิกออฟ” ปลายสายในขณะนั้นบอกเล่าเรื่องราวของแคมเปญพิเศษที่ไนกี้ได้จัดทำขึ้นเป็นบันทึกลูกหนังของชาวบราซิลว่าทำไมชนชาตินี้จึงเก่งกาจเหนือชาติอื่นในเรื่องของฟุตบอล
มันมีความลับบางอย่างที่ซ่อนอยู่ที่ทำให้พวกเขาแตกต่าง
Ginga คือความลับที่ว่าครับ
อย่าว่าแต่รู้จักเลยในวันนั้นผมไม่เคยได้ยินคำคำนี้ในหูมาก่อน (แม้จะเข้าใจไปเองในวันนั้นว่าตัวเองรู้มากแล้ว- ซึ่งเป็นการโกหกตัวเองอย่างโง่เขลา) และนั่นทำให้ผมรู้สึกสนใจมากเป็นพิเศษเกี่ยวกับคำคำนี้
ดีวีดีภาพยนตร์สารคดีถูกส่งมาที่กองบรรณาธิการในเวลาต่อมาในแพ็คเกจที่สวยงามภาพปกและภาพประกอบนั้นก็เป็นผลงานของศิลปินชาวบราซิลที่โด่งดังในเวลานั้น (ด้วยวันเวลาที่นานผมนึกชื่อไม่ออกจริง ๆ ต้องขออภัยครับ)
และนั่นเป็นวินาทีที่ผมได้เห็นเวทมนต์กับสองตาตัวเอง
ภาพยนตร์เรื่อง Ginga: The Soul of Brasilian Football แบ่งออกเป็นตอนสั้น ๆ ประกอบกันหลายตอนครับกับเรื่องราวของนักฟุตบอลที่หลากหลายตั้งแต่ตัวพระเอกอย่างโรบินโญ่ซึ่งขณะนั้นเป็นสมบัติล้ำค่าของชาวบราซิลที่กำลังรอวันเปล่งประกายในฐานะ “ทายาทของเปเล่” ไปจนถึงนักเตะผู้มีขาข้างเดียวแต่ไม่เคยยอมแพ้
ในเรื่องราวที่น่าประทับใจและลีลาลูกหนังที่เหนือจินตนาการคนที่ทำให้ผมตะลึงมากที่สุดกลับเป็นนักฟุตซอลที่ไม่เคยได้ยินชื่อหรือรู้จักมาก่อนอย่าง “ฟัลเกา”
อันเดรส โรซา วิเอราเป็นชื่อจริงที่ไม่มีใครจดจำสำหรับราชาฟุตซอลที่เป็นขวัญใจของคนบราซิลไม่แตกต่างจากโรบินโญ่ครับและในความเป็นจริงแล้วเขาเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่สำคัญของชาติด้วยซ้ำไปแม้ว่าจะไม่ได้โด่งดังจากเกมฟุตบอลก็ตาม
ฟัลเกาเป็นคนที่น่าจะทำให้เราได้เข้าใจนิยามของคำว่า Ginga ได้ดีที่สุด
Ginga ไม่ได้มึความหมายถึงท่วงท่าวิธีคิดหรือจิตวิญญาณอะไรครับแต่มันคือ “วิถีชีวิต” ของคนบราซิลที่มีความสนุกสนานตื่นตัวและกล้าหาญ
พูดให้เห็นภาพก็อาจจะบอกได้ว่าเป็นสไตล์ของคนบราซิลที่พร้อมที่จะเคลื่อนไหวอย่างพลิ้วไหวด้วยลีลาที่เร้าใจโดยเฉพาะสะโพกหรือเอวที่ไม่มีใครเกิน
ดังนั้นจริงๆแล้ว Ginga จึงไม่ได้มีอยู่แค่ในเกมฟุตบอลหรือฟุตซอลหากแต่อยู่ในทุก ๆ ที่ทุก ๆ การเคลื่อนไหวของคนบราซิลมันอาจจะอยู่ในเกมกีฬาอย่างคาโปเอราหรืออยู่ในลีลาของการเต้นรำแม้กระทั่งการทำอาหารด้วยซ้ำไป
ในภาพยนตร์จะมีตอนที่ฟัลเกาได้เดินทางมาเพื่อเล่นฟุตซอลกับโรบินโญ่ด้วยซึ่งในการดวลกันนั้นถึงแม้ว่าลีลาสเต็ปขาของโรบินโญ่จะพลิ้วไหวและว่องไวดุจเมฆา
แต่ฟัลเกาคือคนที่แสดงให้เราได้เห็นว่าความมหัศจรรย์มีหน้าตาเป็นเช่นไร
และผมก็เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้เห็นมายาที่ปลายเท้าของราชาฟุตซอลกันบ้างใช่ไหมครับ?
ไม่ว่าจะเป็นการครองบอลที่เหลือเชื่อการเคลื่อนที่ที่ไม่น่าจะมีใครเลียนแบบได้หรือลูกยิงที่จู่ ๆ คิดจะยิงก็ยิงได้ทุกรูปแบบจะยิงใกล้ยิงไกลยิงมุมแคบมุมกว้างตีลังกายิงหรือกระโดดหนีบบอลแล้วดีดเข้าประตู(!!!)
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาผมกลายเป็นแฟนตลอดกาลของราชาฟุตซอลคนนี้และกล้าพูดได้เต็มปากว่าเขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ผมอยากจะได้เห็นลีลาการเล่นอย่างใกล้ชิด
ก่อนหน้านี้ 6 ปีความฝันของผมได้เป็นจริงเมื่อฟัลเกาเดินทางมาร่วมแข่งขันฟุตซอลโลกที่ประเทศไทยซึ่งแม้จะเป็นวัยโรยราแต่เขาก็ยังแสดงให้เห็นถึงมายาลูกหนังที่เราเคยได้แต่ดูใน YouTube บ้าง
หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้คิดว่าเราจะมีโอกาสได้เห็นลีลาของเขาอีกครั้งครับเพราะฟัลเกาดูสูงวัยมาก
แต่ในวันนี้- อย่างที่หลายคนอาจจะทราบ- ว่าเขากลับมาบ้านเราอีกครั้งในศึกฟุตซอลอินเตอร์คอนติเนนตัลคัพโดยลงแข่งในนามทีมแม็กนัส
และมากกว่านั้นคือวันนี้(30 ส.ค.) เขาจะเป็นหนึ่งในนักฟุตซอลที่ร่วมเดินทางมาทำกิจกรรมพิเศษกับ LaLiga Thailand ด้วยครับที่ศูนย์การค้า Stadium One ซึ่งก็คือบริเวณ “หลังสนามศุภ” เดิมที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
นอกจากจะได้เห็นฟัลเกาลงโชว์ลวดลายนิดๆหน่อยๆแล้วมากกว่านั้นคือโอกาสที่จะได้ขอลายเซ็นต์ด้วย
ผมเองคงไม่พลาดที่จะไปครับก็อยากชวนทุกคนที่สนใจมาร่วมงานด้วยกัน
เพราะถ้าไม่ไปวันนี้วันหน้าอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอนักเตะจอมมายาราชาฟุตซอลคนนี้อีกแล้วครับ🙂
รายละเอียดกิจกรรม #LaLigaInThailand
สถานที่: @Stadium One (ใกล้สนามศุภชลาศัยสถานีรถไฟฟ้าBTS สนามกีฬาแห่งชาติ)
เวลา:กิจกรรมเริ่ม17.00น. โดยประมาณ
โอกาสพิเศษ: ได้ดูลีลาสุดยอดนักฟุตซอลโลกใกล้ชิดฟัลเกา, เฟร์เรา(บาร์ซ่า), ศุภวุฒิเถื่อนกลาง ฯลฯ และมีการแจกลายเซ็นต์ด้วย(รายละเอียดต้องรบกวนมาดูที่หน้างานนะครับแต่เข้าใจว่าถ้ามามีโอกาสได้ลายเซ็นต์สูงมาก)