ไม่มีคำตอบในแววตา

คุณคาดหวังอะไรจากทีมของคุณหลังจากที่เพิ่งถูกถล่มอย่างย่อยยับคาบ้านถึง 7-2?
ถ้าเป็นผม ผมไม่คาดหวังถึงการคืนฟอร์มแบบหนังคนละม้วนโดยทันทีครับ เพราะมันผิด แต่สิ่งที่เราคาดหวังได้เป็นอย่างต่ำที่สุดคือการเล่นด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ใส่เต็มแม็กซ์
แน่นอนว่าเราไม่รู้ว่าเมาริซิโอ โปเช็ตติโน ต้องการเห็นอะไรจากลูกทีมของเขาบ้างในการมาเยือนไบรจ์ตัน แต่หลังความพยายามออกมาปกป้องทีม การออกตัวที่ความจริงก็ไม่จำเป็นนักว่าเขาพร้อมจะอยู่ที่นี่ต่อไปอีกอย่างน้อย 5 ปี ซึ่งเป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนมากพอสมควร
ขั้นต่ำที่สุดเขาก็น่าจะคาดหวังว่าสเปอร์ส จะเล่นได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของที่พวกเขาเคยทำได้
อย่างน้อยก็แสดงความมุ่งมั่นให้เห็น
พวกเขาอาจจะแย่ที่ไม่ชนะในเกมเยือนมา 9 นัด แต่ The Seagulls เองก็หนักไม่แพ้กันกับการไม่ชนะในบ้านมา 8 นัดเหมือนกัน
แต่ดูเหมือนทุกอย่างมันจะยากเกินไปหมดในเวลานี้ครับ ความผิดพลาดของฮูโก ยอริส ในช่วงต้นเกมไม่เพียงแต่จะทำให้เสียประตูแบบไม่น่าให้อภัยในการรับหลุดมือปล่อยให้นีล โมเพย์ ยิงลูกที่ง่ายที่สุด มันยังทำให้ตัวเขาต้องบาดเจ็บแบบร้ายแรง (ตามสายตา ผมประเมินว่าแขนหัก และมีรายงานว่าเขาเจ็บปวดมากถึงขั้นต้องให้มอร์ฟีนเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด)
อย่างไรก็ดีก่อนที่ยอร์ริส จะทำพลาดในจังหวะนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือการที่ผู้เล่นสเปอร์ส ปล่อยให้ไบรจ์ตันได้เปิดบอลเข้าเขตโทษง่ายๆ
เอริค ลาเมลา ที่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงไม่ได้ขยับเข้าไปบีบผู้เล่นเจ้านางนวลเลย
และหลังจากนั้นสเปอร์สก็ยังเล่นเหมือนคนไม่ได้พกหัวใจลงสนามด้วย พวกเขาปล่อยให้ไบรจ์ตันเล่นง่ายไปหมด
ราวกับคู่ต่อสู้ของพวกเขาคือ Bayern and Hove Albion
ทั้งๆที่นี่คือ Brighton and Hove Albion เอง… Come on!
แนวรับเปราะบาง และนำไปสู่การเสียประตูที่ 2 กับการปล่อยให้อารอน คอนเนลลี ยิงง่ายๆอีก (ลูกนี้ เปาโล กาซซานิสกา เองก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้) ซึ่งนอกจากนั้นตลอด 45 นาทีแรก มันน่าจะเป็นวันที่แนวรับสเปอร์ส ไร้ระเบียบ ไม่มีการจัดการที่ดีมากที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาในยุคของโปเช็ตติโน
แดนบนก็ใช่ย่อย การประสานงานที่เคยเล่นกันได้เหมือนไม่ต้องมองตาก็รู้ใจ กลายเป็นลูกจ่ายง่ายๆก็ผิดก็พลาดไปหมด ซ้ำยังไม่ทุ่มเท ไม่มีการเพรสในแดนบนปล่อยให้ไบรจ์ตัน เล่นสบายเหมือนนอนบนเปลญวนในสวนหลังบ้าน
อากัปรอาการของสเปอร์สหลายคนไม่ต้องบอกก็ดูออกครับว่าพวกเขา “ไม่เชื่อ”
ไม่ใช่แค่ไม่เชื่อในตัวเอง แต่ไม่เชื่อในตัวเพื่อน ไม่เชื่อในทีม
และไม่แน่ใจว่าอาจจะไม่เชื่อในตัวผู้จัดการทีมด้วยไหม
สิ่งที่โปเช็ตติโน พยายามคือการปรับการเล่น ใช้ขยับเอริค ไดเออร์ ลงมายืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟในระบบกองหลัง 3 คนตั้งแต่ช่วงท้ายครึ่งแรก
ตรงนี้ก็ช่วยได้บ้าง แต่มันไม่มากพอ เพราะนักเตะในสนามไม่ตอบสนอง
ความจริงมันไม่มีคำตอบใดๆในแววตาของพวกเขามาตั้งแต่นาทีที่เสียประตูแรกแล้ว
ประตูที่ 3 จากคอนนอลลี คนเดิมทำให้พวกเขาเริ่มรู้สึกตัวบ้างแต่ในวันที่ไม่ใช่วันของเขา แม้แต่ลูกง่ายๆของซอน เฮือน-มิน หรือแฮร์รี เคน ที่ได้ตั้งป้อมซัดเน้นๆ ปกติไม่มีเหลือแต่วันนี้ก็พลาดหมด
สำหรับไบรจ์ตัน แสดงความยินดีกับพวกเขาด้วย นี่คือผลการแข่งที่สมควร ไม่เพียงแต่จะเล่นได้ดี พวกเขาแสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องการเป็นผู้ชนะมากกว่า
สำหรับสเปอร์ส หลังจบเกมนี้ก่อนจะพูดอะไรอยากให้นักเตะทุกคนลองหันหน้าเข้าหากัน
ในนัยน์ตา ยังมีกันและกันอยู่ไหม
ถ้ามีก็ลืมวันนี้เสียแล้วเริ่มใหม่
แต่ถ้าไม่ใครจะอยู่ใครจะไปก็เริ่มคุยกันได้แล้ว
Match Fact
- อารอน คอนนอลลี ในวัย 19 ปี เป็นผู้เล่นดาวรุ่งคนแรกที่ทำประตูให้ไบรจ์ตันได้นับจาก เจค ฟอร์สเตอร์-แคสกีย์ ทำได้ในเกมลีกนัดที่พบกับชาร์ลตัน
- สเปอร์ส เสีย 10 ประตูใน 2 นัด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1997 (แพ้เชลซี 1-6, โคเวนทรี 0-4)